ปิโตรเคมีซึ่งเป็นสารเคมีที่ได้จากปิโตรเลียมเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมการผลิตตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 พวกเขาถูกรวมเข้ากับการผลิตครั้งแรกเพื่อทดแทนผลิตภัณฑ์ธรรมชาติราคาถูก ทุกวันนี้ปิโตรเคมีถูกนำมาใช้ในทุกสิ่งตั้งแต่ยารักษาโรคไปจนถึงพลาสติก ในขณะที่สารเคมีเหล่านี้โดยทั่วไปจะปลอดภัยเมื่อพบในผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปของพวกเขาในรูปแบบดิบของพวกเขาสามารถเป็นพิษสูงและเป็นกรดสูงและต้องจัดการด้วยความระมัดระวัง มีหัวข้อความปลอดภัยหลายประการที่สามารถช่วยให้ผู้คนทำงานอย่างมีประสิทธิภาพเกี่ยวกับปิโตรเคมี
ความปลอดภัยและความตระหนักในการทำงานประจำวัน
หัวข้อความปลอดภัยที่สำคัญที่สุดที่จะพูดคุยในอาชีพที่อาจเป็นอันตรายคือการปฏิบัติงานรายวัน มั่นใจว่าทุกคนมีความเข้าใจที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการปฏิบัติงานประจำวันของโรงงานปิโตรเคมีและในฐานะที่เป็นคนงานแต่ละคนสิ่งก่อสร้างเหล่านี้เป็นกุญแจสำคัญในการหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงยิ่งกว่าบนถนน การฝึกอบรมด้านความปลอดภัยอย่างง่าย ๆ เช่นการระบุขั้นตอนการทำงานหรือเงื่อนไขที่ไม่ปลอดภัยการสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล (PPE) เช่นแว่นตานิรภัยและถุงมือขณะจัดการกับปิโตรเคมีและการตระหนักถึงความผิดปกติด้านสิ่งแวดล้อมเช่นกลิ่นเหม็นหรือควัน.
การตอบสนองของวัสดุอันตราย
ปิโตรเคมีเช่น Naphthenic และ Benzene ใช้ในเคมีอินทรีย์ (ปุ๋ยและยาฆ่าแมลง) และเป็นตัวทำละลายในอุตสาหกรรม ในขณะที่สารเคมีเหล่านี้มีประโยชน์และปลอดภัยอย่างสมบูรณ์เมื่อบรรจุการรั่วไหลของการกักกันจะปล่อยสารเคมีที่ระเหยง่ายและไวไฟสูงซึ่งเผาไหม้ได้อย่างรวดเร็วและที่อุณหภูมิสูงมาก การฝึกอบรมพนักงานเกี่ยวกับความปลอดภัยเกี่ยวกับสารเคมีเหล่านี้ในระหว่างการดำเนินการตามปกติเป็นสิ่งที่จำเป็น แต่ก็จำเป็นที่จะต้องฝึกอบรมพนักงานทุกคนเกี่ยวกับสิ่งที่ควรทำเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ขั้นตอนวัสดุที่เป็นอันตรายมาตรฐานรวมถึงการปิดกิจกรรมไฟฟ้าทั้งหมดในกรณีที่มีการรั่วไหลของสารไวไฟโดยใช้อุปกรณ์ความปลอดภัยโดยรอบและทรัพยากรอื่น ๆ เพื่อให้มีการจัดการการรั่วไหลหรือการอพยพเพื่อให้ทุกคนได้รับอันตราย
สารเคมีรั่วไหลฉุกเฉิน
เนื่องจากปิโตรเคมีหลายแห่งสามารถเผาไหม้ผิวหนังหรือทำลายดวงตาได้ดังนั้นผู้ที่ทำงานกับปิโตรเคมีจึงควรตระหนักถึงการรักษาฉุกเฉินเป็นพิเศษสำหรับการปนเปื้อนส่วนตัวด้วยสารเคมี ควรแจ้งให้พนักงานทราบถึงห้องน้ำที่ใกล้ที่สุดและพื้นที่ซักล้างฉุกเฉินที่ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีงานของพวกเขา นอกจากนี้ควรได้รับแจ้งว่าควรมีการหกรั่วไหลบนผิวหนังหรือดวงตาด้วยน้ำกรองจำนวนมากเพื่อลดความเสียหายและผู้ประสบภัยจากการสูดดมควรสูดดมให้ได้รับอากาศบริสุทธิ์โดยเร็วที่สุด